StyleHint

StyleHint | นโยบายความเป็นส่วนตัว

StyleHint (ต่อไปในนโยบายนี้เรียกว่า “บริการ”) เป็นบริการที่ดำเนินการโดยบริษัท ฟาสต์ รีเทลลิ่ง จำกัด (ต่อไปในนโยบายนี้เรียกว่า “FR”) รวมถึงบริษัทย่อยและ บริษัทในเครือ (ต่อไปในนโยบายนี้เรียกว่า “กลุ่มบริษัท FR” ร่วมกับ FR) ที่อนุญาตให้ผู้คนสามารถโพสต์สไตล์การแต่งตัวนอกเหนือจากผลงานของ FR เองได้อย่างอิสระ โดยที่ผู้คนทั่วโลกสามารถชม แสดงความคิดเห็น และแชร์สไตล์การแต่งตัวดังกล่าวได้ เพื่อให้ผู้คนทั่วโลกได้สัมผัสกับความสนุกสนาน ความสุข และความพึงพอใจ ในการสวมใส่เสื้อผ้า

นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ (ต่อไปในนโยบายนี้เรียกว่า “นโยบายนี้”) จะอธิบายให้ทราบถึงนโยบายของ FR ในการจัดการข้อมูลต่างๆ รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของ ผู้โพสต์และผู้ชม (ในที่นี้จะเรียกว่า “ผู้ใช้”) ที่ใช้บริการซึ่ง FR เก็บรวบรวมผ่านทางบริการ (ต่อไปในนโยบายนี้เรียกว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล”) นโยบายนี้มีผลบังคับใช้ กับผู้ใช้ทุกคน กรุณาอ่านนโยบายอย่างละเอียดก่อนใช้บริการ เมื่อคลิกที่ปุ่มตกลงในขณะที่ลงทะเบียนใช้บริการนี้หรือระหว่างใช้บริการ จะถือว่าผู้ใช้ยอมรับข้อกำหนด ของนโยบายนี้

ข้อ 1 (คำจำกัดความ)

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีสิทธิ์ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลต่างๆ เช่น กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎข้อบังคับ ว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลทั่วไปของสหภาพยุโรป (กฎระเบียบที่ 2016/679) พระราชบัญญัติความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภคแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย และกฎหมายคุ้มครอง ข้อมูลอื่นๆ

“เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้น

ข้อ 2 (การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล)

กลุ่มบริษัท FR จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลด้วยวิธีการที่เหมาะสมและชอบด้วยกฎหมาย เมื่อเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ต้องระบุจุดประสงค์ในการใช้งาน และผู้ใช้งานร่วมไว้อย่างชัดเจนเพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามดุลยพินิจของตน รายการข้อมูลส่วนบุคคลที่กลุ่มบริษัท FR เก็บรวบรวม ต้องมีขอบเขตจำกัดที่จำเป็นตามสมควรโดยพิจารณาตามจุดประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าว นอกจากนี้ ในกรณีที่มีการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเกินขอบเขต ของจุดประสงค์ที่ได้ระบุให้ทราบไว้ล่วงหน้า บริษัทต้องแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละรายทราบถึงจุดประสงค์ใหม่ในการใช้งาน และได้รับความยินยอมตาม จุดประสงค์ใหม่ดังกล่าว

ข้อมูลส่วนบุคคลที่จะต้องถูกจัดเก็บจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะต้องปรากฏให้เห็นในขณะที่รวบรวมข้อมูล (อย่างเช่น ในแบบฟอร์มกรอกข้อมูลแต่ละแบบฟอร์ม) ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็น อาจทำให้ FR ไม่สามารถให้บริการ ทั้งหมดหรือบางส่วนได้

ข้อ 3 (ประเภทของข้อมูลที่เก็บรวบรวม จุดประสงค์ในการใช้งาน และความชอบด้วยกฎหมายในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล)

ประเภทและจุดประสงค์ในการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลที่กลุ่มบริษัท FR อาจร้องขอตามข้อก่อนหน้า ต้องเป็นไปตามที่กำหนดในตารางต่อไปนี้ นอกจากนี้ มูลเหตุทางกฎหมายในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลโดยกลุ่มบริษัท FR ต้องเป็นไปตามที่กำหนดในตารางต่อไปนี้ ซึ่งเพิ่มเติมจากการอิงตามความยินยอมของ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถเพิกถอนความยินยอมในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลได้ทุกเมื่อ อย่างไรก็ตาม การเพิกถอนความยินยอม ดังกล่าวต้องไม่ส่งผลกระทบต่อความชอบธรรมทางกฎหมายในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลที่มีอยู่เดิมก่อนที่จะมีการเพิกถอนความยินยอมนี้

ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่สามารถเก็บรวบรวมได้ วิธีการเก็บรวบรวม จุดประสงค์ในการใช้งาน มูลเหตุทางกฎหมายในการจัดการ
  • ① ข้อมูลที่ผู้ใช้ให้แก่ FR โดยตรง
    1. ID ผู้ใช้ รหัสผ่าน ไอคอน และข้อมูลทางบัญชีอื่นๆ
    2. เพศ ความสูง และข้อมูลประวัติอื่นๆ
    3. รูปภาพ ความคิดเห็น และเนื้อหาอื่นๆ ที่ผู้ใช้โพสต์ในบริการ
  • ② ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการโดยผู้ใช้
    1. ตำแหน่งของภาพถ่าย วันที่สร้างไฟล์ และกลุ่มของข้อมูลที่รวมเนื้อหาข้างต้น
    2. คคำสำคัญในการค้นหา การดำเนินการกับภาพถ่ายที่โพสต์ (เช่น การคลิก เลือกเป็น รายการโปรด การบันทึก เป็นรายการโปรด หรือการแชร์กับผู้อื่น)
  • ③ ข้อมูลเกี่ยวกับเทอร์มินัลการสื่อสารข้อมูลที่ใช้งานโดยผู้ใช้
    1. ตัวระบุเฉพาะ (เช่น IDFA・UUID)
    2. ข้อมูลเกี่ยวกับคุณลักษณะ การทำงาน การตั้งค่า สัญญาณ การเชื่อมต่อ เครือข่าย ฯลฯ
    3. ข้อมูลคุกกี้ (*
  • ④ ข้อมูลอื่นๆ ที่ได้มาโดยใช้เทคโนโลยีมาตรฐานบน อินเทอร์เน็ตเพื่อใช้ในงานด้านการวิเคราะห์ เช่น แนวโน้มของผู้ใช้
ได้รับจากผู้ใช้โดยตรง
  1. การจัดหา การดำเนินการ การจัดการ การวิเคราะห์และการปรับปรุงบริการ
  2. การปรับปรุงความมั่นคงปลอดภัยของบริการ
  3. การสื่อสารส่วนบุคคล อย่างเช่น การแนะนำผู้ใช้
  4. การนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ บริการ แคมเปญของกลุ่มบริษัท FR ฯลฯ
  5. กิจกรรมการโฆษณาบนสื่อออนไลน์ต่างๆ โฆษณาทางโทรทัศน์ นิตยสาร ฯลฯ
  6. กิจกรรมการโฆษณาบนเว็บไซต์ แอป บัญชี SNS อย่างเป็นทางการ และสื่ออื่นๆ ที่ดำเนินการโดยกลุ่มบริษัท FR สื่อส่งเสริมการขายโดยตรง ป้ายโฆษณาดิจิทัล และใบปลิว
  7. กิจกรรมนักลงทุนสัมพันธ์และกิจกรรมประชาสัมพันธ์อื่นๆ
  8. การตอบคำถามผู้ใช้
  9. การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่
  1. เพื่อปฏิบัติตามข้อตกลงกับผู้ใช้เกี่ยวกับการใช้บริการ
  2. เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (การปรับปรุงคุณภาพของบริการนี้ การเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า และกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ)

ข้อ 4 (มาตรการว่าด้วยการจัดการด้านความปลอดภัย)

กลุ่มบริษัท FR มีความมุ่งมั่นในการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลให้มีความถูกต้องและเป็นข้อมูลล่าสุดอยู่เสมอ และใช้มาตรการควบคุมด้านความมั่นคงปลอดภัยที่จำเป็นและ เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไม่ให้เกิดการรั่วไหล การสูญเสีย การทำลาย ความเสียหาย การแก้ไข และการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต

ข้อ 5 (ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล)

  1. กลุ่มบริษัท FR จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ประสงค์ในการใช้งาน หรือเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายและกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
  2. ในกรณีที่ผู้ใช้ยกเลิกบริการ FR จะลบข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้รายดังกล่าวที่อยู่ในครอบครองหรืออยู่ภายใต้การควบคุมโดยไม่ชักช้าตามกฎหมายและ กฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องโดยไม่คำนึงถึงข้อกำหนดในข้อ 1
  3. หากผู้ใช้ร้องขอให้ลบข้อมูล FR จะลบข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ที่อยู่ในครอบครองหรืออยู่ภายใต้การควบคุมในรูปแบบหรือบนสื่อที่ผู้ใช้ระบุตามสมควร โดยไม่ชักช้าและโดยไม่คำนึงถึงข้อกำหนดในข้อ 1
  4. FR จะลบบัญชีที่ไม่มีการใช้งานและข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับบัญชีดังกล่าวเมื่อมีการใช้งานครั้งสุดท้ายนานกว่า 2 ปี
  5. แม้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้จะถูกลบไปแล้ว FR อาจยังคงมีข้อมูลทางสถิติที่ไม่ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคล หรืออาจยังคงมีข้อมูลที่สร้างขึ้นจากข้อมูล ส่วนบุคคลของผู้ใช้รายดังกล่าว โดยจะคำนึงถึงความปลอดภัยของข้อมูลและจำกัดการเข้าถึงข้อมูลให้น้อยที่สุด เพื่อประโยชน์โดยชอบทางธุรกิจ เช่น การวิเคราะห์ เป็นต้น

ข้อ 6 (การจัดเตรียมข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลที่สาม)

กลุ่มบริษัท FR จะไม่จัดเตรียมข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลที่สาม ยกเว้นกรณีดังต่อไปนี้

  1. ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
  2. เมื่อมีความจำเป็นเพื่อปกป้องชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สิน และเมื่อการขอรับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลเป็นเรื่องที่ดำเนินการได้ยาก
  3. กรณีที่จำเป็นต้องจัดเตรียมข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการเฉพาะเพื่อการปรับปรุงด้านสาธารณสุขหรือเพื่อส่งเสริมการอุปการะเลี้ยงดูผู้เยาว์ที่สมเหตุสมผล และเมื่อการขอรับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลเป็นเรื่องที่ดำเนินการได้ยาก
  4. กรณีที่จำเป็นต้องให้ความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐหรือหน่วยงานราชการ หรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายจากหน่วยงานดังกล่าวให้เป็นผู้ดำเนินการ ตามกฎหมายและกฎข้อบังคับที่ระบุไว้ และเมื่อการขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจขัดขวางการดำเนินการดังกล่าว
  5. ในกรณีที่บุคคลที่สามได้รับมอบหมายให้เป็นผู้จัดการข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดหรือบางส่วนภายใต้ขอบเขตที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์การใช้งานตามที่กำหนดไว้ในข้อ 7
  6. กรณีที่มีการถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวเนื่องกับการสืบทอดธุรกิจ อันเนื่องมาจากการควบรวมบริษัท หรือเหตุผลอื่นๆ
  7. ในกรณีที่มีการใช้งานร่วมกันตามที่กำหนดไว้ในข้อ 8 โดยแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบล่วงหน้าเกี่ยวกับข้อเท็จจริงในการใช้งานร่วมกัน รายการของ ข้อมูลส่วนบุคคลที่จะมีการใช้งานร่วมกัน ขอบเขตของบุคคลที่จะมีการใช้งานร่วมกัน วัตถุประสงค์ในการใช้งานของผู้ใช้ และชื่อหรือตำแหน่ง ของผู้รับ ผิดชอบในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล หรือโดยการทำให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้โดยง่าย
  8. กรณีอื่นๆ ตามที่กฎหมายอนุญาต

ข้อ 7 (การมอบหมาย)

กลุ่มบริษัท FR อาจมอบหมายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลบางส่วนหรือทั้งหมดให้บุคคลที่สามรับผิดชอบตามขอบเขตที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ในการใช้งานตามที่กำหนดไว้ในข้อ 3 กลุ่มบริษัท FR ต้องเลือกบุคคลที่จะจัดการข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม โดยพิจารณาจากมาตรการควบคุมความมั่นคงปลอดภัยของบุคคลที่สามดังกล่าว ในกรณีที่ เป็นสัญญาว่าจ้างบุคคลภายนอก กลุ่มบริษัท FR ต้องกำหนดสาระสำคัญเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม เช่น การจัดการด้านความปลอดภัย การรักษา ความลับ และเงื่อนไขในการมอบหมายใหม่ กลุ่มบริษัท FR ต้องติดตามการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลโดยบุคคลที่สาม และต้องดำเนินการกำกับดูแลที่จำเป็นและเหมาะสม

ข้อ 8 (การใช้งานร่วมกัน)

กลุ่มบริษัท FR ดำเนินธุรกิจด้วยความสุจริต ดังนั้น กลุ่มบริษัท FR อาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่กำหนดไว้ในข้อ 3 ร่วมกับบริษัทต่างๆ ที่อยู่ภายในกลุ่มบริษัท FR ในขอบเขต ที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ในการใช้งานที่กำหนดไว้ นอกจากนี้ บริษัทภายในกลุ่มบริษัท FR ต้องรับผิดชอบในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่มีการใช้งาน ร่วมกันดังกล่าว ภายใต้การควบคุมดูแลของผู้ดูแลการจัดการข้อมูล (หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารความมั่นคงปลอดภัยของบริษัท ฟาสต์ รีเทลลิ่ง จำกัด) ของกลุ่มบริษัท FR

ข้อ 9 (การถ่ายโอนข้อมูลข้ามพรมแดน)

โดยหลักการแล้ว กลุ่มบริษัท FR สามารถถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศได้เมื่อได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรืออยู่ภายใต้ขอบเขตที่จำเป็น เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์การใช้งานที่กำหนดไว้ในข้อ 3 หากกฎหมายอนุญาต เมื่อถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ กลุ่มบริษัท FR จะดำเนินการตามมาตรการ คุ้มครองที่ระบุไว้ในกฎหมายและกฎข้อบังคับต่างๆ เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในขณะเดียวกัน กลุ่มบริษัท FR จะตรวจสอบให้มั่นใจว่าบริษัทต่างประเทศที่ ได้รับการถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลดำเนินมาตรการต่างๆ ตามกฎหมายและกฎข้อบังคับต่างๆ รวมถึงพระราชบัญญัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแห่งประเทศญี่ปุ่น การถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังประเทศที่สามนอกเหนือจากประเทศญี่ปุ่นและประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป (ไม่รวมประเทศหรือภูมิภาคที่ได้รับการรับรองที่ เหมาะสม) จะดำเนินการโดยการสรุปสัญญาตามข้อสัญญามาตรฐาน (ข้อสัญญามาตรฐาน) ที่คณะกรรมธิการยุโรปเป็นผู้กำหนด โปรดติดต่อฝ่ายบริการข้อมูลตามที่ระบุ ไว้ในข้อ 11 เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการถ่ายโอนข้อมูลข้ามพรมแดน

ข้อ 10 (สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล)

  1. เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิต่างๆ ในข้อมูลส่วนบุคคลของตนดังต่อไปนี้
    1. สิทธิในการเข้าถึง
      เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถขอสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของตนได้ และสามารถยืนยันว่าข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้รับการจัดการ โดยกลุ่มบริษัท FR ตามกฎหมายและมีความเหมาะสมตามกฎหมายและกฎข้อบังคับต่างๆ หรือไม่
    2. สิทธิในการแก้ไขหรือลบข้อมูล
      เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถขอแก้ไขหรือลบข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้องจากข้อมูลส่วนบุคคลของตนได้ ในกรณีนี้ กลุ่มบริษัท FR อาจขอการยืนยันความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับมาใหม่จากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
    3. สิทธิในการจำกัดการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล
      เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจจำกัดสิทธิในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของตนได้ในกรณีใดก็ตามดังต่อไปนี้
      1. ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลปฏิเสธถึงความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลของตน ในกรณีนี้ การจัดการข้อมูลส่วนบุคคลโดยกลุ่มบริษัท FR จะถูกจำกัดในช่วงเวลาระหว่างที่มีการยืนยันความถูกต้องของข้อมูล
      2. เมื่อกลุ่มบริษัท FR จัดการข้อมูลส่วนบุคคลโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลคัดค้านการลบข้อมูลส่วนบุคคล ดังกล่าวและเรียกร้องให้มีการจำกัดการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลนั้นแทน
      3. เมื่อกลุ่มบริษัท FR ไม่จำเป็นต้องจัดการข้อมูลส่วนบุคคลโดยพิจารณาตามวัตถุประสงค์ในการใช้งาน แต่จำเป็นสำหรับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่มีการฟ้องร้องคดี เช่น เพื่อยื่นข้อเรียกร้องหรือแก้ต่างข้อเรียกร้อง
      4. หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลคัดค้านการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเนื่องจากประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของกลุ่มบริษัท และประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีความชอบด้วยกฎหมายมากกว่ากลุ่มบริษัท FR
    4. สิทธิที่จะลบ
      เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลได้เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลไม่มีความจำเป็นอีกต่อไปเมื่อพิจารณาตามวัตถุประสงค์ในการใช้งาน หรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเพิกถอนความยินยอม อย่างไรก็ตาม อาจจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้อย่างต่อเนื่องเพื่อ วัตถุประสงค์ตามที่กฎหมายกำหนดหรือเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
    5. สิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคล
      เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถขอรับข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบที่สามารถอ่านได้ หรือ แบบใช้งานทั่วไป หรือแบบที่นำไปประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์ได้ นอกจากนี้ หากการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวในกลุ่มบริษัท FR เป็นไปตามความยินยอมหรือสัญญากับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและมีการดำเนินการโดยระบบอัตโนมัติ จะสามารถขอให้ถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลที่สามได้
    6. สิทธิในการไม่ขอรับการประมวลผลแบบอัตโนมัติซึ่งรวมถึงการทำประวัติ
      เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถขอปฏิเสธการตัดสินใจด้วยกระบวนการประมวลผลแบบอัตโนมัติ รวมถึงการทำประวัติที่ส่งผลกระทบทางกฎหมายหรือ ผลกระทบอื่นๆ ที่มีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม สิทธินี้ไม่สามารถใช้ได้เมื่อจำเป็นต้องดำเนินการหรือปฏิบัติตามสัญญาระหว่างเจ้าของข้อมูล ส่วนบุคคลกับบริษัทในกลุ่มบริษัท FR หรือเป็นการปฏิบัติตามความยินยอมโดยชัดแจ้งของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเอง
    7. สิทธิในการทักท้วง
      แม้ว่าการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลโดยเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะเป็นไปตามประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายธรรมชอบของกลุ่มบริษัท FR แต่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถยื่นคัดค้านวิธีการจัดการข้อมูลดังกล่าวได้ตามพฤติการณ์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ เจ้าของข้อมูล ส่วนบุคคลสามารถคัดค้านการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการตลาดทางตรงได้ทุกเมื่อ (ซึ่งรวมถึงการทำประวัติในขอบเขต ที่เกี่ยวข้องกับการตลาดทางตรงดังกล่าวด้วย)
    8. สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม
      เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถเพิกถอนความยินยอมในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลได้ทุกเมื่อ การเพิกถอนความยินยอมนี้จะไม่ส่งผลต่อ ความชอบธรรมทางกฎหมายในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลที่มีอยู่เดิมก่อนที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะเพิกถอนความยินยอม
    9. สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียนต่อผู้กำกับดูแล
      เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถยื่นข้อร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาที่เกี่ยวเนื่องกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล ต่อหน่วยงานกำกับดูแลการคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคลภายในประเทศที่มีเขตอำนาจในพื้นที่ซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาศัยอยู่ ในพื้นที่ซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้รับการจ้างงาน หรือในพื้นที่ซึ่งมีการละเมิดเกิดขึ้น กลุ่มบริษัท FR มีความประสงค์ที่จะขอโอกาสในการตอบกลับก่อนที่เจ้าของข้อมูลจะติดต่อหน่วยงานที่มี หน้าที่กำกับดูแล ดังนั้น ขอให้เจ้าของข้อมูลติดต่อกลับตามช่องทางที่ระบุไว้ในข้อ 11 ก่อน กลุ่มบริษัท FR จะตอบกลับข้อร้องเรียนของลูกค้า อย่างเหมาะสมตามกฎหมายและกฎข้อบังคับต่างๆ

ข้อ 11 (การติดต่อ)

โปรดติดต่อหน่วยงานตามที่ระบุไว้ในรายการด้านล่าง หากมีคำถามหรือข้อร้องเรียนเกี่ยวกับนโยบายและบริการนี้

ข้อ 12 (การใช้งาน Google Analytics)

ข้อ 13 (สิทธิในความเป็นส่วนตัวตามกฎหมายแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย)

ข้อ 14 (การแก้ไขนโยบายนี้)

กลุ่มบริษัท FR จะมุ่งมั่นในการปรับปรุงนโยบายนี้ตามการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายและกฎข้อบังคับต่างๆ บรรทัดฐานทางสังคม และความต้องการทางธุรกิจ สำหรับการแก้ไขที่สำคัญเกี่ยวกับนโยบายนี้ เราจะแจ้งให้ลูกค้าทราบโดยการโพสต์ข้อมูลบนเว็บไซต์ของบริษัท ฟาสต์ รีเทลลิ่ง จำกัด ออนไลน์สโตร์ที่ดำเนินการ โดยบริษัทในกลุ่มบริษัท FR หรือโดยวิธีการอื่นๆ ที่กลุ่มบริษัท FR เห็นสมควร การแก้ไขนโยบายจะมีผลบังคับใช้เมื่อกลุ่มบริษัท FR แจ้งข้อมูลให้เจ้าของข้อมูล ส่วนบุคคลทราบ

วันที่มีผลบังคับใช้: 22 มิถุนายน 2563

(ภาคผนวก)

เพื่อประสบการณ์ที่ดี เราใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูลการใช้งานของท่าน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ‘นโยบายความเป็นส่วนตัว’ เรียนรู้เพิ่มเติม